ช่วงนี้ที่ COVID 19 ระบาด ใครหลายๆคน อาจจะตะลอนต่อนต๊อน หาวิตามินซีรับประทานตามร้านขายยาเพื่อมาเสริมภูมิคุ้มกันกัน เนื่องจากกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด เชื้อมรณะที่สร้างความปั่นปวนไปทั่วโลก แต่เราจะสังเกตว่าในท้องตลาดจะมีวิตามินซีในหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบ วิตามินซีเม็ดฟู่ เม็ดอม แบบเคี้ยว แบบผงใส่น้ำทั้งแบบฟู่และไม่ฟู และแบบเม็ดใส่น้ำแล้วฟู่ มันแตกต่างกันอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ
ทำไมเราถึงต้องทำวิตามินซีเม็ดฟู่ออกมา
ทั้งๆที่เราก็มีวิตามินซีแบบเม็ดอยู่แล้ว หรือแบบอื่นๆอยู่แล้ว แต่ทำไมเราถึงผลิตวิตามินเม็ดฟู่ออกมา ส่วนหนึ่งแล้วก็เป็นการตลาดอย่างหนึ่งของบริษัทที่ผลิตยาหรืออาหารเสริมที่ต้องออกรูปแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกมา ให้บริษัทได้มีสินค้าแบบอื่นๆให้ผู้บริโภคได้ทดลองใช้ เพื่อให้สินค้าของบริษัทเกิดการจำหน่ายได้เพิ่ม และทำให้ลูกค้าไม่รู้สึกเบื่อหน่ายกับตัวสินค้า หรือที่เรียกว่าการแตกรายการผลิตของรูปแบบสินค้านั้นเอง
แล้วนอกจากนี้การทำตัววิตามินซีเม็ดฟู่นั้นก็ยังได้ประโยชน์ในด้านอื่นเป็นผลพลอยได้ตามมานั้นก็คือ ทำให้การรับประทานวิตามินสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลืนเม็ดนั้น ทานวิตามินซีได้สะดวกยิ่งขึ้น และยังช่วยให้การดูดซึมของวิตามินนั้นเกิดได้ดีขึ้นด้วย รวมถึงช่วยให้ผู้ที่รับประทานเกิดความรู้สึกน่ารับประทานมากกว่าเดิม จากรสชาติและฟองฟู่ๆๆๆ เมื่อใส่วิตามินลงในน้ำ
ด้านคุณประโยชน์ระหว่างเม็ดฟู่กับวิตามินซีแบบอื่นๆมีความแตกต่างกันมั้ย
ในแง่คุณประโยชน์โดยตัวของวิตามินแล้วไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จะต่างก็เพียง ปริมาณวิตามินซี ที่ไม่เท่ากันในแต่ละยี่ห้อ และ รูปแบบเกลือแอสคอร์บิก (เป็นรูปแบบโครงสร้างทางเคมีของวิตามินซี) เท่านั้น โดยคลังข้อมูลยาของมหาวิทยาลัยมหิดลได้ให้ข้อมูลไว้ว่า เกลือของวิตามินซีแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร โดยส่วนใหญ่แล้วเกลือของวิตามินซีแต่ละฟอร์มจะถูกออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงในผู้ป่วยบางโรค เช่น โรคความดัน โรคกระเพาะ
การเกิดฟองฟู่ของวิตามินซีเม็ดฟู่เกิดจากอะไร
จริงๆแล้วการเกิดฟองฟู่นั้นไม่ได้มีอะไรที่แปลกหรือพิสดารแต่อย่างใด แต่เป็นปฎิกิริยาทางเคมีระหว่าง กรด-ด่าง เท่านั้นเองที่เกิดจากสาร 3 ชนิด ที่เป็นกรด 2 ชนิดคือ กรดซิตริกและกรดทาร์ทาริก กับ ด่างที่เป็นโซเดียมไบคาร์บอเนต ที่ถูกใส่อยู่ในเม็ด เมื่อสัมผัสกับน้ำก็จะเกิดปฎิกิริยาทันที ดังสมการทางเคมีด้านล่าง ถ้าดูแล้วงงว่ามันคืออะไรก็ข้ามไปเถิดน่าคนดี
มีข้อควรระวังอะไรบ้างในการทานวิตามินชนิดเม็ดฟู่
- ข้อควรระวังแรกเลย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซีหรือวิตามินอื่นๆที่เป็นชนิดนี้ หลังจากใส่น้ำแล้ว เราต้องรอให้วิตามินละลายให้หมดเสียก่อน เพราะว่าถ้าไม่รอจนละลายหมด แล้วรับประทานเลย อาจทำให้แน่นท้อง ท้องอึดได้ จากฟองแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมา
- หลังจากที่รับประทานแล้ว ควรดื่มน้ำระหว่างวันเพิ่มเพื่อให้วิตามินนั้นได้ดูดซึมเต็มประสิทธิภาพ
- ต้องระวังในผู้ป่วยที่มีโรคความดันสูงมาก หากวิตามินซีที่ใช้เป็นเกลือโซเดียม จะทำให้ความดันสูงขึ้นได้ แต่หากต้องการรับประทาน ก็สามารถรับประทานได้ในปริมาณที่พอเหมาะ
- สำหรับผู้ป่วยโรคไต ทานด้วยความระมัดระวังการทานในปริมาณที่มากเกินไปเพราะอาจทำให้ไตทำงานหนัก และคนเป็นโรคไตต้องระวังเรื่องปริมาณน้ำที่ดื่มต่อวันไม่ให้มากเกิดไปอีกด้วย
- ผู้ป่วยที่เป็นโรค G-6-PD ต้องระมัดระวังในการทานวิตามินซี เพราะอาจส่งเสริมทำให้เซลล์เม็ดเลือดแดงแตก และทำให้อาการของโรคเลวร้ายมากยิ่งขึ้น
สรุป
ความแตกต่างระหว่างวิตามินซีเม็ดฟู่กับวิตามินซีเม็ดไม่ฟู่นั้น ในแง่คุณประโยชน์แล้วไม่ได้แตกต่างกันมาก จะต่างกันเพียงปริมาณวิตามินซีทีบรรจุอยู่ในเม็ด ว่ามีขนาดกี่มิลลิกรัม ซึ่งพอจะมีผลในการลดความเสี่ยงในการเกิดหวัด การติดเชื่อต่างๆคือที่ 1000 มก./วัน จุดที่จะแตกต่างกันที่เห็นได้คือ วิตามินซีเม็ดฟู่ จะช่วยให้ผู้ที่ไม่สามารถกลืนวิตามินซีแบบเม็ด สามารถรับประทานวิตามินซีได้เช่นกันและสะดวกขึ้นนั้นเอง
Redoxon