Dymista nasal spray ยาพ่นจมูกที่คนเป็นภูมิแพ้ต้องลอง ใช้ดีไหม ทำไมแพงกว่ายาพ่นตัวอื่น

dymista

โรคภูมิแพ้ โรคที่คนไม่เป็นไม่เข้าใจ ว่าคนเป็นนั้นทรมานจากการใช้ชีวิตประจำวันมากแค่ไหน เพราะโรคนี้ก็ไม่ต่างจากเห็บสุนัข ที่คอยรบกวนการใช้ชีวิตในหลายๆด้านของคนป่วย แต่โชคยังดีที่ในปัจจุบันเรามียาที่คุมอาการแพ้ หลากหลายชนิด เช่น ยากิน ยาพ่นแก้คัดจมูก ยาพ่นสเตียรอยด์ และวันนี้เราจะมาพูดถึงยาพ่นจมูกที่ดีที่สุดตัวหนึ่งเลยสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ นั้นก็คือ ยาพ่นจมูก Dymista

ยาพ่นจมูก Dymista คือยาอะไร ทำไมถีงดีมากสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

Dymista nasal spray คือ ยาพ่นจมูกสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้เรื่อรัง และ ภูมแพ้เฉียบพลัน โดยสเปรย์ตัวนี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างยาสเตียรอยด์ Fluticasone 50 mcg และ ยาแก้แพ้ Azelastine 137 mcg เพื่อให้คุมอาการได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากยาพ่นตัวอื่นๆในท้องตลาด ที่มักจะเป็นสเตียรอยด์เดี่ยวๆ เช่น ยาพ่นจมูกอวามิส และตัวยา 2 ตัวนี้มีสรรพคุณอย่างไร

ประโยชน์ของยา Fluticasone ใน Dymista nasal spray

ตัวยา Fluticasone จัดเป็นยากลุ่มสเตียรอยด์ ที่มีความแรงปานกลาง โดยยาตัวนี้จะไปลดการอักเสบ การบวมแดงภายในโพรงจมูก โดยตัวยาออกฤทธิ์ยาว ทำให้ไม่ต้องพ่นบ่อย เพียงแค่วันละ 1-2 ครั้ง โดยยาจะไปลดการหลั่งสารการอักเสบที่ชื่อว่า Prostaglandin D2 ช่วยให้คุมอาการแพ้ได้ดีในระยะยาว โดยตัวยาสำคัญตัวนี้นอกจากอยู่ในไดมิสต้าแล้ว ยังเป็นตัวยาที่อยู่ใน ยาพ่นจมูกอวามิส อีกด้วย

ประโยชน์ของตัวยา Azelastine

ยาตัวนี้จัดอยู่ในกลุ่มยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮีสตามีน โดยยาจะไปออกฤทธิ์ที่ จับตัวรับ Histamine เพื่อป้องกันการแตกของ Mass cell ที่จะปลดปล่อยสารฮีสตามีนออกมาเมื่อถูกสิ่งกระตุ้น (Trigger) ที่มาทำให้เกิดอาการแพ้ โดยไป Block H1 receptor ทำให้ช่วยลดอาการแพ้ อักเสบที่โพรงจมูก โดยหลังจากพ่นยาจะออกฤทธิ์ภายใน 1 ชั่วโมง และฤทธิ์ของยาจะออกฤทธิ์ยาวประมาณ 12 ชั่วโมง

ยานี้เหมาะกับใคร

  • ผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้ตามฤดูกาล (Seasonal allergic) ในระดับปานกลาง – รุนแรง โดยผู้ป่วยกลุ่มนี้จะมีอาการแพ้บางฤดูกาล
  • ผู้ที่มีอาการภูมิแพ้ตลอดทั้งปี (Parennial allergic rhinitis) ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยาแก้แพ้ หรือ ยาสเตียรอยด์เดี่ยวๆ
ื

NAC LONG

ภูมิแพ้มีเสมหะ ทำไมต้อง แนคลอง

แนคลอง เม็ดฟู่ ดีอย่างไร

ขนาดการใช้ยา

  • ไม่แนะนำให้ใช้ยานี้ในเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี
  • เด็ก และ ผู้ใหญ่ ที่อายุมากกว่า 12 ปี แนะนำให้ใช้วันละ 1 – 2 ครั้ง เช้า เย็น

วิธีใช้

  1. ให้เขย่าขวดขึ้นลงเบาๆ ประมาณ 5 วินาที รอบแรกที่มีการเปิดใช้ยา ให้ทำการไล่อากาศออกจากขวด โดยการกดพ่นยาออกประมาณ 6 ครั้ง หากตั้งยาทิ้งไว้ไม่ได้ใช้เกิน 7 วันแนะนำให้ทำการไล่อากาศใหม่
  2. สั้งน้ำมูกออกจากโพรงจมูกให้ได้มากที่สุด
  3. ก้มศีรษะเล็กน้อยขณะพ่นยา แล้วสอดปลอดหลอดเข้าไปในรูจมูกเล็กน้อย
  4. ขณะที่พ่นยาให้ปิดรูจมูกอีกข้างตามภาพ
  5. หลังจากพ่นเรียบร้อยแล้วก็ให้ดำเนินการพ่นรูจมูกอีกข้างได้เลย
  6. หลังจากพ่นเสร็จแล้วให้สูดหายใจเบาๆ เพื่อให้ยาเข้าไปเกาะภายในโพรงจมูกได้ทั่ว แต่ไม่ควรเงยหน้าไปด้านหลัง
  7. หลังใช้ให้เช็ดที่หัวสเปรย์ด้วยทิชชู่แห้งและปิดฝา
  8. หากพ่นยาไม่ออก ไม่ควรใช้เข็มหรือของแหลมทิ่มที่หัวสเปรย์ แต่ควรนำไปเขย่ากับน้ำ

ข้อห้ามใช้

  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่แพ้ยานี้ หรือ ส่วนประกอบใดๆที่อยู่ในยานี้
  • ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่แพ้สาร Benzalkonium Chloride และสารตัวนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองเยื่อบุภายในโพรงจมูกได้ และ ส่งผลทำให้หลอดลมหดเกร็งได้

บทความอื่นๆสำหรับคนเป็นภูมิแพ้

ข้อควรระวัง

  • ไม่ควรใช้ยานี้สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มผ่าตัดจมูก
  • หากมีการติดเชื้อที่โพรงจมูก หากต้องใช้ยานี้ร่วมกับยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย หรือ ยาฆ่าเชื้อรา
  • สำหรับผู้ที่เป็นต้อหิน ต้อกระจก หรือความดันลูกตาสูง หากระหว่างใช้ยามีการมองเห็นเปลี่ยนไป แนะนำให้หยุดยาและเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด
  • หากผู้ที่มีโรคตับขั้นรุนแรง ควรระมัดระวังการกลืนยาลงสู่ทางเดินอาหาร
  • หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์และประเมินความเสี่ยงก่อนใช้ยานี้
  • ระวังอย่าให้ยาพ่นเข้าตาขณะใช้

ผลข้างเคียง

  • เลือดกำเดาไหล (พบได้บ่อย 1 ใน 10 ของผู้ใช้)
  • ปวดศีรษะ (พบบ่อย)
  • รู้สึกขมคอ ขมในปาก (พบบ่อย)
  • ระคายเคืองในโพรงจมูก จาม (พบปานกลาง 1 ใน 100)
  • จมูกแห้ง คอแห้ง ไอ ปากแห้ง (พบน้อย 1 ใน 1000)
  • เวียนหัว ง่วงนอน (พบน้อยมาก 1 ใน 10000)
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรง (พบน้อยมาก)
  • ผื่นขึ้น คัน แดงที่ผิว (พบน้อยมาก)
  • การมองเห็นผิดปกติไป ในผู้ที่เป็นต้อหิน ต้อกระจก ความดันลูกตาสูง
  • หลอดลมหดเกร็ง

ขนาดบรรจุ

  • 1 สเปรย์จะได้ตัวยา Fluticasone 50 mcg และ Azelastine 137 mcg
  • 1 ขวด บรรจุ 17 ml พ่นได้ 120 ครั้ง

การเก็บรักษา

  • ไม่ควรใช้ยานี้ หลังจากเปิดใช้แล้วเกิน 6 เดือน
  • ควรเก็บยาในที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส
  • ควรเก็บยาให้พ่นจากมือเด็ก

ราคา

  • ราคาเฉลี่ยในท้องตลาด 800 -950 บาท

บริษัทผู้ผลิตและนำเข้า

  • บริษัท เมด้า ฟามาร์ (ประเทศไทย) จำกัด Meda Pharma (Thailand) Co. , Ltd

สรุป

ยาพ่นจมูก Dymista ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็นยาใช้ภายนอก แต่ก็มีรายละเอียดในการใช้และข้อควรระวัง ไม่น้อยกว่ายารับประทานเลย เพราะฉะนั้นหากเราเป็นภูมิแพ้ และต้องการใช้สเปร์ยพ่นจมูกตัวนี้ ก็ควรได้รับคำแนะนำจากเภสัชกรหรือแพทย์ก่อนใช้ยา หากบทความนี้มีประโยชน์ พี่เภก็ขอฝากแชร์ กดที่ปุ๋มด้านล่างได้เลย